Diary


วิธีการเตรียมสุขภาพให้พร้อมสำหรับการสอบ 
ในช่วงการสอบมักมีนักศึกษาป่วยฉุกเฉินเป็นจำนวนมาก สาเหตุการป่วยที่พบบ่อย คือ นอนดึก หรือไม่ได้นอนไม่ได้รับประทานอาหารมื้อเช้า ปวดท้องประจำเดือน ปวดท้องโรคกระเพาะ ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ เป็นลม
เพื่อหลีกเลี่ยงการป่วยดังกล่าว ควรเตรียมตัวก่อนสอบให้พร้อม เช่น ทบทวนตำราวิชาที่จะสอบล่วงหน้า พักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึกเกินไปหรืออดนอน รับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าวันที่จะสอบสำคัญมาก
ระมัดระวังในการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หรือของหมักดอง เพราะอาจทำให้เกิดอาการอาหารเปินพิษ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียอย่างรุนแรงได้
ส่วนผู้มีโรคประจำตัว เช่น ลมชัก หอบหืด ควรปรึกษาแพทย์ รับประทานยาตามเวลา พักผ่อนให้เพียงพอ และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ภาษารัก 

การที่คนสองคนมีความรักและความรู้สึกที่ดีต่อกันนั้น บางคนเชื่อว่า "การกระทำสำคัญมากกว่าคำพูด" ในขณะที่หลายคน โดยเฉพาะผู้หญิงกลับมองว่า บางครั้งก็อยากได้ยินจากปากบ้าง
หากเอ่ยถึง "ภาษารัก" ภาษาที่นำไปสู่ความเข้าใจ ความอบอุ่นระหว่างคนสองคนไปจนถึงทุกคนในครอบครัวนั้น อาจจำแนกภาษารักได้ถึง 9 ภาษาด้วยกัน ซึ่งเป็นระบบการสื่อสัมพันธ์ของคนทั้งสองให้ตรงตามจริงและตามวัตถุประสงค์มุ่งหวัง เป็นภาษาที่ต้องรู้ เข้าใจ ฝึกให้ดี ใช้ให้เป็นและบริหารให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้ คนสองคนจะเข้าใจและทำให้ครอบครัวอบอุ่นได้นั้น ต้องเข้าใจภาษารักทั้ง 9 ดังนี้
1. ภาษาใจ
ภาษาที่ว่าด้วยเรื่องการส่งรับด้วยจิตนิ่งเป็นหนึ่ง เมื่อจิตว่าง การรับรู้จะชัดเจน แจ่มใส และแม่นยำ การส่งการรับภาษาใจนี้จะก่อให้เกิดความเข้าใจ และความประทับใจในความสัมพันธ์กันมากซึ่งเป็นความจำเป็นพื้นฐานของคนสองคนที่จะเป็นคู่ชีวิตใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
2. ภาษาสายตา
ภาษาที่ลึกซึ้งและเที่ยงตรงที่สุดเพราะหลอกกันไม่ได้ ซึ่งวิธีการส่งภาษาใจออกมาเป็นภาษาตานั้น เพียงแค่ส่งความรู้สึกลึกๆในใจออกมา คนๆนั้นก็จะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกได้ทันที เพราะแววตาของมนุษย์สามารถบอกสิ่งต่างๆมากมาย ซึ่งเป็นที่มาขอคำว่า "ดวงตา คือหน้าต่างของหัวใจ"
3. ภาษายิ้ม
ยิ้มเป็นสิ่งที่บ่งบอกและแสดงความเป็นไปของผู้ยิ้ม การกำหนดยิ้ม เกิดจากสภาวะทั้งภายใน ภายนอก และจากอุปนิสัย โดยแบ่งเป็น 3 แบบของยิ้ม คือ ยิ้มแบบมีความสุข ยิ้มแบบเหนื่อยๆ และยิ้มแบบขอไปที การยิ้มมีทั้งประโยชน์และโทษ ดังนั้นเราจึงควรฝึกยิ้มให้มีเสน่ห์ และมีความสุขโดยการ ยิ้มจากใจ ยิ้มให้หมด ยิ้มเปล่งประกาย ยิ้มให้พอดี ยิ้มให้ปรากฎ ยิ้มให้ถูกกาละเทศะ ยิ้มให้ถูกวัตถุประสงค์ ยิ้มอย่างทรงพลัง และยิ้มทั้งตา
4. ภาษาวาจา
คำพูดทุกคำที่เปล่งออกมาจะมีพลังอยู่ในตัว และซึมซาบเข้าสู่ผู้ฟัง สามารถใช้สร้างสรรค์หรือทำลายก็ได้ ซึ่งพลังแห่งคำพูดมี 2 องค์ประกอบ คือ พลังแห่งเสียงและพลังแห่งความหมาย ดังนั้นจึงต้องกลั่นกรองวาจาก่อนเจรจาใดๆ ทุกครั้งที่พูดให้ใคร่ครวญในสิ่งที่พูดว่าเป็นจริงหรือเปล่าเพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ความเข้าใจที่ถูกต้องจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงเท่านั้น การพูดเท็จจึงเป็นการสร้างความเข้าใจผิด และเป็นการทำลายระบบสัจจะ ก่อให้เกิดปัญหาตามมา
ทั้งนี้อย่าคิดว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจความหมายได้เอง ภาษาวาจามีอานุภาพมาก มีทั้งประโยชน์และโทษถ้าไม่ระมัดระวังคำพูด ดังนั้นทุกครั้งที่พูดควรกลั่นกรองคำพูด เพื่อจรรโลงใจยังความรักให้งอกงามสถาพร
5. ภาษาท่าทาง
ท่าทางอันจรรโลงรักให้ภาคภูมิ งดงาม และยังความมั่นใจในสัมพันธภาพ คือ บุคคลิกอันงามสง่า กิริยาที่สำรวม อิริยาบถอันสมดุล ท่วงท่าอันมั่นคง และท่าทีจริงจังที่ปล่อยวาง จึงจะได้ความมั่นคงอันอบอุ่น และความสบายใจอันเป็นรากฐานแห่งความสุข
6. ภาษาสัมผัส
นับเป็นอีกระบบภาษาหนึ่งที่คู่รักชอบใช้กันเช่นการโอบกอด การจับมือ ฯลฯ เพราะภาษาสัมผัสเป็นการถ่ายทอด หรือแลกเปลี่ยนพลังระหว่างบุคคล
อย่างไรก็ตาม การสัมผัสนั้นควรมีความพิถีพิถันบรรจง อ่อนโยน ทะนุถนอม นุ่มนวลและหนักแน่นเป็นการเกื้อกูลกันให้เกิดพลังมาก และยังสมานสัมพันธ์ให้แนบแน่นยิ่งขึ้น จึงไม่แปลกที่คนกอดกันบ่อยๆ จับมือเดินไปด้วยกันมักมีความรักที่ไม่เคยเก่าไปสักวัน
7. ภาษาพฤติกรรม
รักแท้ที่จริงมิใช่คำพูด แต่ต้องฉายออกมาจริงทุกระดับทั้งใจ แววตา ยิ้ม วาจา ท่าทาง สัมผัส และพฤติกรรม ดังนั้นภาษา พฤติกรรมจึงเป็นภาษารักแห่งยั่งยืน
8. ภาษาสัมพันธ์
สิ่งนี้คือ การจัดสมดุลให้แก่ชีวิตคู่ให้สัมพันธภาพคงอยู่เสมออย่างบริสุทธิ์ใจ มั่นคง ลงตัว เข้ากันได้อย่างดี ให้คู่รักทั้งสองร่วมกันพัฒนายิ่งๆขึ้น จนกว่าสัมพันธภาพนั้นนิรันดร
9. ภาษาแห่งความสงบ
ในบรรดาภาษาทั้งหลาย ภาษาแห่งความสงบเป็นภาษาที่ทรงอานุภาพสูงสุด เมื่อใดที่เข้าถึงความสงบได้ ความสุขจึงปรากฎ ความเข้าใจเที่ยงตรงตามจริงจึงแจ่มชัด ความตั้งใจเชิงสร้างสรรค์จึงพรั่งพรู จรรยามารยาทอันงดงามจึงส่องแสง ความอ่อนโยนจึงยังความอบอุ่นให้บังเกิดสัมผัสจึงทราบซึ้ง สัมพันธภาพจึงมั่นคง ดังนั้นภาษาแห่งความสงบจึงเป็นที่สุดแห่งภาษารักทั้งมวล
ท้ายนี้ หากไม่อยากให้ความรักนั้นจืดจาง ยิ่งนานวันยิ่งเก่า รู้สึกเฉากับชีวิตคู่ ก็ควรเข้าใจ ใส่ใจ มีความละเอียดอ่อน และดูแลซึ่งกันและกันเฉกเช่นวันแรกที่รักกันใหม่ๆ โดยการใช้ภาษารักทั้ง 9 ให้เป็นประโยชน์ แล้วในที่สุดมั่นใจเถอะว่า "คู่แท้"และ"รักแท้" อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม


ประโยคเด็ดโดนใจ   

1. อยากเข้าใจสิ่งใด ,ต้องเริ่มจากการยอมรับ, ว่าเราไม่เข้าใจสิ่งนั้น

2. ความเหงา, มิได้ขึ้นอยู่กับความกว้างใหญ่ของพื้นที่รอบตัว, มันขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่างเล็กเล็กข้างข้างตัว.

3. ทุกที่มีความเศร้า, ตราบที่เรา, พกมันไปด้วย.

4. เมื่อความรักหมดลง, สิ่งที่เหลือ, คือความพยายาม.

5. บางครั้ง, เรายอมแพ้, เพราะแค่กลัวว่าจะไม่ชนะ.

6. เรื่องเกิดขึ้นมานานแค่ไหน, ไม่สำคัญเท่า, มันยังคงอยู่หรือเปล่า, ในวันนี้.

7. บางที, เราบอกรักเพื่อความสบายใจ, มิใช่ต้องการคำตอบ.

8. น้ำตาของจริง, มักไหลออกมาโดยที่เราไม่รู้ตัว, รอยยิ้มของจริงก็เช่นกัน.

9. ความทรงจำที่หล่นหาย, ไม่มีใครเก็บมาคืนเราได้, แต่ไม่เป็นไร, มันคงไม่ค่อยสำคัญ.

10. การลืม, ทำได้ยาก, ที่พอทำได้คือ, ไม่เพิ่มความทรงจำ.

11. ทุกคน, ล้วนต้องการ, บางคน.

12. ผิดหวังกับใครคนหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า, แปลว่าเขา, สำคัญกับเราพอสมควร.

13. เราต่างกลัวความผิดหวัง, แต่เมื่อผิดหวังแล้ว, ก็ไม่มีอะไรให้กลัวอีก.

14. ปลอบตัวเอง, ว่าเธอไม่ใช่, คือวิธีทำให้เจ็บปวดน้อยลง.

15. คำว่าจบ, ที่สมบูรณ์, ต้องจบทั้งสองคน.

16. บางครั้ง, เราอดไม่ได้ที่จะเดินไปตามทางเส้นนั้น, แม้รู้ว่ามันเป็นทางตันก็ตาม.

17. สิ่งใดที่ต้องพยายามจำ, สิ่งนั้นไม่สำคัญจริง.

18. สิ่งที่บอกไม่เคยจริง, สิ่งที่จริงไม่เคยบอก.

19. คนที่ทำให้เราเขินได้,มีความเป็นไปได้,ที่จะทำให้เรารัก

20.  วันสุดท้าย ทำให้คิดถึงวันแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น